นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับ ARVIC App
บริษัท แคริว่า (ประเทศไทย) จำกัด (“บริษัท” หรือ “เรา”) ตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จึงได้จัดทำนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ (“นโยบายฯ”) เพื่ออธิบายให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบถึงวัตถุประสงค์ และวิธีการที่บริษัทเก็บรวบรวม เก็บรักษา ใช้ เปิดเผย หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยประการอื่นใด (“ประมวลผล” หรือ “การประมวลผล”) รวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับสิทธิต่างๆ ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ด้วยเหตุนี้ บริษัทจึงประกาศนโยบายฯ ดังต่อไปนี้
1. การใช้บังคับนโยบายฯ
นโยบายฯ ฉบับนี้ใช้บังคับกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
2. คำนิยาม
2.1 “ARVIC App” หมายถึง แอปพลิเคชัน ARVIC App ซึ่งได้จัดทำขึ้นโดยบริษัท
2.2 “Health Link” หมายถึง เว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชัน Health Link ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ดำเนินการ และให้บริการโดยบุคคลภายนอกเพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดเก็บ และเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพ
2.3 “ข้อกำหนดและเงื่อนไข” หมายถึง ข้อกำหนด และเงื่อนไขการใช้งานแอปพลิเคชัน ARVIC App
2.4 “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
2.5 “คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง คณะกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งขึ้นภายใต้พระราชบัญญัติฯ โดยมีหน้าที่และอำนาจกำกับดูแล ออกหลักเกณฑ์ มาตรการ หรือข้อปฏิบัติอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติฯ
2.6 “เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลซึ่งสามารถถูกระบุตัวตนได้โดยข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ว่าจะโดยทางตรง หรือทางอ้อม เพื่อวัตถุประสงค์ของนโยบายฯ ฉบับนี้ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ผู้ใช้งาน บุคคลติดต่อ บุคคลที่สาม บุคคลไร้ความสามารถ และผู้เยาว์ ตามแต่กรณี
2.7 “บุคคลติดต่อ” หมายถึง บุคคลใด ๆ ที่ผู้ใช้งานได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลไว้แก่บริษัทสำหรับการติดต่อในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉิน
2.8 “บุคคลที่สาม” หมายถึง บุคคลใด ๆ ที่ผู้ใช้งานได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลไว้แก่บริษัทในการใช้บริการ ARVIC App
2.9 “บุคคลไร้ความสามารถ” หมายถึง บุคคลไร้ความสามารถ บุคคลเสมือนไร้ความสามารถ หรือบุคคลวิกลจริตตามกฎหมายที่ใช้บังคับ
2.10 “ผู้ใช้งาน” หรือ “ท่าน” หมายถึง บุคคลใด ๆ ที่ได้ทำการสมัครลงทะเบียนเพื่อใช้งาน ARVIC App
2.11 “ผู้มีอำนาจปกครอง” หมายถึง บิดา มารดา หรือผู้มีอำนาจปกครองของผู้เยาว์ หรือผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ของบุคคลไร้ความสามารถ แล้วแต่กรณี
2.12 “ผู้เยาว์” หมายถึง บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ หรือยังไม่ถือเป็นผู้บรรลุนิติภาวะตามที่กฎหมายที่ใช้บังคับกำหนด
2.13 “ผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม ” หมายถึง บุคคล หรือนิติบุคคลภายนอกซึ่งให้บริการ เว็บไซต์ และ/หรือแอปพลิเคชันที่ให้บริการแพทย์ทางไกล และ/หรือให้บริการในการจัดเตรียม และจัดส่งเวชภัณฑ์ให้แก่ผู้ใช้งาน
2.14 “พระราชบัญญัติฯ” หมายถึง พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ซึ่งอาจมีการแก้ไขเป็นครั้งคราว รวมถึงกฎเกณฑ์ ข้อบังคับ หรือประกาศอื่นใดที่ออกภายใต้พระราชบัญญัติดังกล่าว
2.15 “แพทย์ผู้ให้คำปรึกษา” หมายถึง ผู้ประกอบวิชาชีพทางการแพทย์ของสถานพยาบาล
2.16 “เวชภัณฑ์” หมายถึง ยา อุปกรณ์เกี่ยวกับการแพทย์ และเวชภัณฑ์ต่าง ๆ
2.17 “สถานพยาบาล” หมายถึง โรงพยาบาล คลินิก หรือสถานพยาบาลอื่นใดซึ่งได้เข้าทำข้อตกลงกับบริษัทเกี่ยวกับการให้บริการใด ๆ ภายใต้ข้อกำหนดและเงื่อนไข
2.18 “หน่วยงานกำกับดูแล” หมายถึง หน่วยงานใด ๆ ที่มีอำนาจในการกำกับดูแลการประกอบธุรกิจของบริษัท ซึ่งหมายรวมถึง แต่ไม่จำกัดเพียง คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
2.19 “อุปกรณ์ของผู้ใช้งาน” หมายถึง เช่น อุปกรณ์ต่าง ๆ ซึ่งผู้ใช้งานได้ใช้ในการเชื่อมต่อกับ ARVIC App เพื่อรับบริการตามข้อกำหนดและเงื่อนไข เช่น นาฬิกาอัจฉริยะ (Smart Watch) รวมถึงแอปพลิเคชันอื่น ๆ เช่น Apple Health หรือ Google Fit
3. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
ในการให้บริการ ARVIC App บริษัทจะทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยมีวัตถุประสงค์ ขอบเขต และใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม โดยในการเก็บรวบรวมนั้นจะทำเพียงเท่าที่จำเป็นแก่การให้บริการแก่ท่าน และเพื่อวัตถุประสงค์ที่ได้ระบุไว้ในนโยบายฯ นี้เท่านั้นโดยทั่วไปแล้ว บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น ๆ ดังต่อไปนี้
ประเภทข้อมูลส่วนบุคคล |
ตัวอย่างประเภทข้อมูลส่วนบุคคล |
ข้อมูลที่ใช้ในการระบุตัวบุคคล |
ชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประจำตัวประชาชน วันเดือนปีเกิด อายุ เพศ ภาพถ่าย ภาพบันทึกวิดีโอ เสียง |
ข้อมูลที่จัดเก็บโดยอัตโนมัติ |
รหัสผ่าน (Password) ที่อยู่ไอพี (IP address) หมายเลขอุปกรณ์ที่ใช้ในการใช้งาน ARVIC App คุกกี้ (Cookies) การบันทึกการเข้าถึงและใช้งาน ARVIC App รวมถึงข้อมูลอื่น ๆ ที่กฎหมายเกี่ยวกับข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ได้กำหนดให้บริษัททำการจัดเก็บ |
ข้อมูลติดต่อ |
หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่อีเมล ที่อยู่ |
ข้อมูลสถานที่ตั้ง |
ข้อมูลสถานที่ตั้งสถานีตรวจวัด (Kiosk) ที่ท่านได้ใช้เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลของท่านกับ ARVIC App |
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว |
ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับสุขภาพ อาทิ ข้อมูลน้ำหนัก ส่วนสูง ค่าความดันโลหิต อัตราการเต้นของชีพจร จำนวนแคลอรี่ ดัชนีมวลกาย (BMI) อาการแพ้ยา ข้อมูลการฉีดวัคซีน ผลเอกซเรย์ ข้อมูลการกินและสารอาหาร ข้อมูลกิจกรรมการออกกำลังกาย การพักผ่อน ข้อมูลการใช้เวชภัณฑ์ โรคประจำตัว โรคอื่น ๆ อาการเจ็บป่วย อัตราการบริโภคน้ำ ข้อมูลการนัดหมายแพทย์ ประวัติการรักษา หมู่โลหิต ความพิการ รวมถึงข้อมูลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน |
ข้อมูลบุคคลติดต่อ |
ชื่อ-นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่อีเมล ที่อยู่ ความสัมพันธ์กับผู้ใช้งาน |
4. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล
โดยทั่วไปบริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรงจากผู้ใช้งานเมื่อผู้ใช้งานได้ทำการสมัครลงทะเบียนใช้งาน ARVIC App และระหว่างการใช้งาน ARVIC App
อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่นเช่นในกรณีดังต่อไปนี้
(ก) จากสถานพยาบาลในกรณีที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่สถานพยาบาลในการเชื่อมโยง หรือแบ่งปันข้อมูลของท่านบน ARVIC App ทั้งนี้ รวมถึงกรณีที่ท่านได้ยินยอมให้มีการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่าง ARVIC App และ Health Link
(ข) & บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานจากผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม กรณีที่ผู้ใช้งานใช้บริการปรึกษาแพทย์
(ค) บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานจากอุปกรณ์ของผู้ใช้งาน หรือ Kiosk ในกรณีที่ผู้ใช้งานได้ตกลงยินยอมให้มีการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ของผู้ใช้งาน หรือ Kiosk และ ARVIC App
(ง) ในกรณีของผู้เยาว์ และบุคคลไร้ความสามารถ บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ และบุคคลไร้ความสามารถ จากผู้มีอำนาจปกครองของผู้เยาว์ หรือบุคคลไร้ความสามารถดังกล่าว
(จ) ในกรณีของบุคคลติดต่อ และบุคคลที่สาม บริษัทจะได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้ใช้งานผ่าน ARVIC App เช่น เมื่อผู้ใช้งานได้ทำการลงทะเบียน ได้เพิ่มข้อมูลบุคคลติดต่อ หรือได้ใช้บริการประเมินอาการเพื่อประเมินอาการเจ็บป่วยเบื้องต้นของบุคคลที่สาม เป็นต้น
ในกรณีที่ผู้ใช้งานได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นแก่บริษัท ผู้ใช้งานรับรองว่าผู้ใช้งานได้แจ้งให้บุคคลดังกล่าวทราบถึงนโยบายฯ ฉบับนี้แล้ว และได้รับความยินยอมจากบุคคลดังกล่าวในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัท หรือผู้ใช้งานอาศัยฐานอื่นใดตามกฎหมายในการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวให้แก่บริษัทเพื่อทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ที่ได้ระบุไว้ในนโยบายฯ นี้
5. วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
โดยทั่วไป บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
วัตถุประสงค์ |
ประเภทข้อมูลส่วนบุคคล |
ฐานทางกฎหมายในการประมวลผล |
เพื่อการลงทะเบียนเข้าใช้งาน ARVIC App และการสร้างบัญชีผู้ใช้งานบน ARVIC App |
· ข้อมูลที่ใช้ในการระบุตัวบุคคล · ข้อมูลที่จัดเก็บโดยอัตโนมัติ · ข้อมูลติดต่อ |
ฐานความจำเป็นในการดำเนินการตามคำขอเข้าทำสัญญาของท่าน
|
เพื่อตรวจสอบ และยืนยันตัวตนของท่าน |
· ข้อมูลที่ใช้ในการระบุตัวบุคคล · ข้อมูลติดต่อ |
ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
|
เพื่อการให้บริการแก่ท่าน อาทิ บริการคลังข้อมูล (Health Drive) บริการประเมินอาการ บริการปรึกษาแพทย์ และบริการอื่น ๆ ที่อาจมีในอนาคตตามข้อกำหนดและเงื่อนไข ทั้งนี้ รวมถึงการแจ้งเตือนการนัดหมายในกรณีที่ท่านได้ทำการนัดหมายเพื่อใช้บริการปรึกษาแพทย์ และการแจ้งให้ท่านทราบถึงสถานะการสั่งจ่ายเวชภัณฑ์ของท่านโดยแพทย์ผู้ให้คำปรึกษา |
· ข้อมูลที่ใช้ในการระบุตัวบุคคล · ข้อมูลติดต่อ · ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว · ข้อมูลสถานที่ตั้ง (เฉพาะกรณีที่ท่านเชื่อมโยงข้อมูลจาก Kiosk) |
· ฐานหน้าที่ตามสัญญาสำหรับการให้บริการต่าง ๆ แก่ท่าน · ฐานความยินยอมโดยชัดแจ้ง ในกรณีที่บริษัททำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
ทั้งนี้ ในกรณีที่ท่านใช้บริการ ARVIC App แทนหรือเพื่อบุคคลที่สาม ท่านมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามข้อ 4 ของนโยบายฯ นี้อย่างเคร่งครัด |
ในกรณีที่ท่านใช้บริการปรึกษาแพทย์ บริษัทอาจทำการบันทึกวิดีโอ และเสียงของท่านเพื่อตรวจสอบการให้บริการ |
· ข้อมูลที่ใช้ในการระบุตัวบุคคล · ข้อมูลติดต่อ · ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว |
· ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย · ฐานความยินยอมโดยชัดแจ้ง ในกรณีที่บริษัททำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว |
เพื่อให้ท่านสามารถเปิดเผย และแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้บันทึกและจัดเก็บไว้บน ARVIC App ให้แก่บุคคลที่สาม ผู้มีอำนาจปกครอง แพทย์ผู้ให้คำปรึกษา สถานพยาบาล และ/หรือผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม Telemedicine |
· ข้อมูลที่ใช้ในการระบุตัวบุคคล · ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว · ข้อมูลติดต่อ
|
· ฐานความยินยอมสำหรับข้อมูลที่ใช้ในการระบุตัวบุคคล · ฐานความยินยอมโดยชัดแจ้ง ในกรณีที่บริษัททำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว |
เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการชำระค่าบริการ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ของท่าน |
· ข้อมูลที่ใช้ในการระบุตัวบุคคล · ข้อมูลติดต่อ · ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว · ข้อมูลด้านการเงิน |
· ฐานหน้าที่ตามสัญญาสำหรับการดำเนินการเกี่ยวกับการชำระค่าบริการ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ของท่าน · ฐานความยินยอมโดยชัดแจ้ง ในกรณีที่บริษัททำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว |
เพื่อการบริหารจัดการ ARVIC App การปรับปรุงการบริการ การพัฒนาระบบ และการดำเนินการใด ๆ เกี่ยวกับ ARVIC App ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ของบริษัท หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัท (หากมี) |
· ข้อมูลที่ใช้ในการระบุตัวบุคคล · ข้อมูลที่จัดเก็บโดยอัตโนมัติ
|
ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
|
เพื่อใช้ในการส่งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ โปรโมชั่น กิจกรรม รวมถึงข้อมูลอื่น ๆ เพื่อวัตถุประสงค์ทางด้านการตลาดของบริษัท บริษัทในเครือ และ/หรือบุคคลอื่นใดให้แก่ท่าน |
· ข้อมูลที่ใช้ในการระบุตัวบุคคล · ข้อมูลที่จัดเก็บโดยอัตโนมัติ · ข้อมูลติดต่อ · ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว |
· ฐานความยินยอมสำหรับข้อมูลที่ใช้ในการระบุตัวบุคคล ข้อมูลที่จัดเก็บโดยอัตโนมัติ ข้อมูลติดต่อ · ฐานความยินยอมโดยชัดแจ้ง ในกรณีที่บริษัททำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว |
เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการของบริษัท และการดำเนินการตามคำสั่ง ประกาศ ระเบียบ กฎเกณฑ์ใด ๆ ที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐ หน่วยงานกำกับดูแล พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ ศาล ซึ่งรวมถึงการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติฯ |
· ข้อมูลที่ใช้ในการระบุตัวบุคคล · ข้อมูลที่จัดเก็บโดยอัตโนมัติ · ข้อมูลติดต่อ · ข้อมูลด้านการเงิน · ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว |
ฐานหน้าที่ตามกฎหมาย
|
เพื่อการก่อตั้ง ปฏิบัติตาม โต้แย้ง ยกขึ้นต่อสู้ หรือดำเนินการใด ๆ เกี่ยวกับสิทธิเรียกร้องของบริษัท |
· ข้อมูลที่ใช้ในการระบุตัวบุคคล · ข้อมูลที่จัดเก็บโดยอัตโนมัติ · ข้อมูลติดต่อ · ข้อมูลด้านการเงิน · ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว |
· ฐานหน้าที่ตามสัญญาสำหรับการดำเนินการเกี่ยวกับการชำระค่าบริการ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ของท่าน · ฐานการก่อตั้ง ปฏิบัติตาม โต้แย้ง หรือยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิเรียกร้อง ในกรณีที่บริษัททำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว |
เพื่อตรวจสอบ และป้องกันการฉ้อโกง ฉ้อฉล หรือการใช้งาน ARVIC App เพื่อกระทำความผิดทางอาญา หรืออันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย กฎระเบียบ ข้อบังคับ หรือข้อกำหนดและเงื่อนไข |
· ข้อมูลที่ใช้ในการระบุตัวบุคคล · ข้อมูลที่จัดเก็บโดยอัตโนมัติ · ข้อมูลติดต่อ · ข้อมูลด้านการเงิน
|
ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย |
เพื่อการติดต่อสื่อสารกับผู้ใช้งานเกี่ยวกับการใช้บริการต่าง ๆ บน ARVIC App การตอบข้อสงสัย หรือข้อซักถามของผู้ใช้งาน รวมถึงการแจ้งให้ท่านทราบถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดและเงื่อนไข หรือนโยบายต่าง ๆ ของบริษัท |
· ข้อมูลที่ใช้ในการระบุตัวบุคคล · ข้อมูลติดต่อ |
ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย |
เพื่อติดต่อสื่อสารกับบุคคลติดต่อในกรณีจำเป็น หรือมีเหตุฉุกเฉินเกี่ยวกับผู้ใช้งาน |
ข้อมูลบุคคลติดต่อ |
ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย |
หมายเหตุ:
(ก) ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจำเป็นต่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินการตามคำขอของท่านเพื่อเข้าทำสัญญากับบริษัท หรือเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาระหว่างบริษัทกับท่าน หากท่านมิได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีดังกล่าว อาจส่งผลให้เราไม่สามารถดำเนินการตามคำขอของท่านได้ หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาของเราได้ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การที่เราไม่สามารถให้บริการบน ARVIC App แก่ท่านได้ ไม่ว่าทั้งหมด หรือแต่บางส่วน หรือการที่เราไม่สามารถดำเนินการให้ท่านลงทะเบียนใช้งาน ARVIC App ได้
(ข) ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจำเป็นต่อวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมิได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีดังกล่าว อาจส่งผลให้บริษัท และ/หรือเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลกระทำการอันเป็นการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับดังกล่าว เช่น กรณีของการออกใบกำกับภาษีให้แก่ผู้ใช้งาน การเก็บข้อมูลจราจรคอมพิวเตอร์ เป็นต้น
(ค) โดยทั่วไปข้อมูลส่วนบุคคลของ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจะถูกเก็บรักษาอยู่ในพื้นที่ที่มีการเข้ารหัส (encryption) หรือการรักษาความปลอดภัยอื่นๆ ซึ่งบริษัทจะไม่สามารถเข้าถึง หรือนำไปใช้งานเพื่อการอื่นได้ อย่างไรก็ตามข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจะยังคงอยู่ในความครอบครองของบริษัทเพื่อวัตถุประสงค์ข้างต้น
หากบริษัทมีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนอกเหนือจากที่ระบุไว้ในนโยบายฯ
ฉบับนี้ บริษัทอาจแจ้งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติม
และ/หรือขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด
6. การเปิดเผย และการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลระหว่างประเทศ
บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคล และ/หรือนิติบุคคลทั้งซึ่งตั้งอยู่ในประเทศไทย และต่างประเทศ ดังนี้
(ก) บริษัทในเครือ
(ข) สถานพยาบาล แพทย์ผู้ให้คำปรึกษา ผู้ให้บริการ Health Link ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มTelemedicine
(ค) บุคคลภายนอกซึ่งให้บริการแก่บริษัท รวมถึง พันธมิตรทางธุรกิจ ซัพพลายเออร์ ผู้ให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้ให้บริการรับชำระเงิน ผู้ตรวจสอบ สำนักงานบัญชี สำนักงานสอบบัญชี และที่ปรึกษากฎหมาย
(ง) หน่วยงานของรัฐ หน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง พนักงานเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจ ศาล
(จ) บุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้องในกรณีของการโอนกิจการ การควบรวมกิจการ และการเข้าซื้อกิจการ หรือเพื่อการดำเนินการอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน
โดยในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลดังกล่าว บริษัทจะดำเนินการให้บุคคลเหล่านั้นเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นความลับ และไม่นำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากที่ได้ระบุไว้ในนโยบายฯ นี้
สำหรับการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลระหว่างประเทศนั้น ประเทศปลายทางซึ่งผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลตั้งอยู่อาจไม่ได้มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอตามที่พระราชบัญญัติฯ ได้กำหนดไว้ ทั้งนี้ เราจะดำเนินการให้ผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลจัดให้มี และใช้มาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอตามที่พระราชบัญญัติฯ กำหนดเพื่อให้แน่ใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจะได้รับการคุ้มครองอย่างปลอดภัย และเพื่อให้แน่ใจได้ว่าการส่งหรือโอนข้อมูลระหว่างประเทศดังกล่าวนั้นจะเป็นไปตามพระราชบัญญัติฯ และกฎหมาย และกฎเกณฑ์อื่นใดที่มีผลใช้บังคับกำหนด
นอกจากนี้ บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมาย กฎเกณฑ์ กฎระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ หรือคำสั่งต่าง ๆ กำหนด เช่น การเปิดเผยข้อมูลต่อหน่วยงานราชการ หน่วยงานภาครัฐ และหน่วยงานกำกับดูแล อีกทั้ง บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย เช่น ในกรณีที่มีการร้องขอข้อมูลเพื่อการดำเนินคดี หรือฟ้องร้องตามกฎหมาย คำสั่งของหน่วยงานรัฐ หรือคำสั่งศาล หรือการร้องขอจากหน่วยงานเอกชน หรือบุคคลภายนอกอื่น ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย
7. การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรักษา และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นระยะเวลาตราบนานเท่าที่จำเป็นต่อวัตถุประสงค์ที่ได้ระบุไว้ในนโยบายฯ นี้ โดยทั่วไปแล้ว บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานไว้ตลอดระยะเวลาที่ผู้ใช้งานยังคงใช้งาน ARVIC App และต่อไปอีกเป็นระยะเวลา 10 ปีนับแต่วันที่ท่านได้ยกเลิกการใช้งาน ARVIC App หรือวันสุดท้ายที่ท่านได้เข้าถึงหรือใช้งาน ARVIC App เว้นแต่กฎหมายที่ใช้บังคับจะได้กำหนดหรืออนุญาตไว้เป็นประการอื่น
ในกรณีของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลประเภทอื่น ๆ บริษัทจะทำการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไว้เป็นระยะเวลาเท่ากับระยะเวลาที่บริษัทจะทำการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานที่เป็นผู้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่กฎหมายที่ใช้บังคับจะกำหนดไว้เป็นอื่น
ภายหลังจากระยะเวลาที่กำหนดไว้ในนโยบายฉบับนี้แล้ว บริษัทจะดำเนินการลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลกลายเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ภายใน 30 วัน เว้นแต่กฎหมายที่ใช้บังคับจะกำหนดไว้เป็นอื่น
8. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการดำเนินการ ดังต่อไปนี้
(ก) สิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมไว้
(ข) สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ เพื่อขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล และขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่ได้ให้ความยินยอม
(ค) สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง ครบถ้วน หรือสมบูรณ์
(ง) สิทธิในการลบ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลกลายเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้
(จ) สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
(ฉ) สิทธิในการขอรับ และขอให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ (หากมี)
(ช) สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถขอใช้สิทธิใด ๆ ดังกล่าวข้างต้นได้ โดยยื่น หรือส่งคำร้องขอใช้สิทธิให้แก่บริษัทเป็นลายลักษณ์อักษร หรือผ่านทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ตามแบบฟอร์มที่บริษัทกำหนด โดยบริษัทจะตอบสนองต่อคำขอใช้สิทธิใด ๆ ข้างต้นของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลภายในระยะเวลาอันสมเหตุสมผล ทั้งนี้ สำหรับคำขอใช้สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลนั้น เราจะทำการตอบสนองต่อคำขอดังกล่าวภายใน 30 วันนับจากที่ได้รับคำขอของท่าน หากมีเหตุการณ์ใดที่ทำให้เราไม่สามารถตอบสนองต่อคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ภายในระยะเวลาดังกล่าว เราจะแจ้งให้ท่านทราบถึงความล่าช้านั้นโดยเร็ว
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลรับทราบว่าการใช้สิทธิใด ๆ ดังกล่าวข้างต้นนั้นเป็นไปตามข้อจำกัด และเงื่อนไขของพระราชบัญญัติฯ และด้วยเหตุนี้ บริษัทอาจปฏิเสธคำขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามข้อกำหนดของพระราชบัญญัติฯ ดังกล่าว
นอกจากนี้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลยังมีสิทธิในการร้องเรียนต่อหน่วยงานกำกับดูแลด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยหากท่านเห็นว่าการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยบริษัทนั้นไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัติฯ อย่างไรก็ตาม เราแนะนำให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลติดต่อเราก่อนที่จะทำการร้องเรียนไปยังหน่วยงานดังกล่าวเพื่อแก้ไขประเด็น หรือข้อกังวลใด ๆ ที่อาจมี
9. คุกกี้ (Cookies)
บริษัทใช้ “Cookies” บนแพลตฟอร์มและเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกัน โดย Cookies จะเข้าไปฝังตัวอยู่ในฮาร์ดดิสก์ (Hard Disk) ของท่าน เพื่อให้บริษัทสามารถศึกษา และเก็บรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นเกี่ยวกับการใช้งานแพลตฟอร์มของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งาน (Log In) บัญชีของท่านบน ARVIC App ได้
10. การทบทวนและเปลี่ยนแปลงนโยบายฯ
บริษัทอาจทำการทบทวน และปรับปรุงแก้ไขนโยบายฯ ฉบับนี้เป็นครั้งคราวเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายที่ใช้บังคับ การเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานของบริษัทใด ๆ ซึ่งมีนัยสำคัญ รวมถึงข้อเสนอแนะ และความคิดเห็นจากหน่วยงานอื่น ๆ ในกรณีที่การเปลี่ยนแปลงนั้นเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ของการประมวลผล เราจะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบถึงวัตถุประสงค์ใหม่ดังกล่าว และในกรณีที่กฎหมายกำหนด เราจะดำเนินการที่จำเป็นเพื่อให้ได้รับความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนที่การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะมีผลใช้บังคับ
11. ข้อมูลการติดต่อ
หากมีข้อสงสัย หรือข้อกังวลเกี่ยวกับนโยบายฯ นี้ หรือเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล หรือหากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลประสงค์ที่จะใช้สิทธิใด ๆ ตามที่ได้ระบุไว้ข้างต้น กรุณาติดต่อเราที่
บริษัท แคริว่า (ประเทศไทย) จำกัด
เลขที่ 33,31, 31/1 อาคารภิรัชทาวเวอร์ แอท สาทร
ถนนสาทรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาทร
กรุงเทพฯ 10120 ประเทศไทย
อีเมล [email protected]
หรือ
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) ของบริษัท
ช่องทางการติดต่อ Nartsupee Chankaoอีเมลล์: [email protected]
นโยบายฯ
นี้ได้มีการปรับปรุงแก้ไขครั้งล่าสุดเมื่อ 25 พฤษภาคม